สุนัขบางสายพันธุ์มีขั้นตอนการดูแลขนที่ยากกว่าปกติ รวมถึงลักษณะทางสายพันธุ์บางอย่างก็ทำให้เกิดปัญหาผิวหนังได้ง่ายด้วยเช่นกัน
1. สุนัขที่มีขนยาวต่อเนื่องไม่พลัดขน
อย่างเช่นสุนัขสายพันธุ์ชิสุหรือยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย สุนัขในกลุ่มนี้จะไม่ค่อยมีการพลัดขนและขนจะยาวขึ้นเรื่อยๆ ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องตัดแต่งหรือแปรงขนให้อยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นก็จะเกิดปัญหาผิวหนังได้ง่ายทั้งเส้นขนพันกัน เห็บหมัดทั้งหลายและการอับชื้น
2. สุนัขที่มีผิวหนังเป็นสีขาวอมชมพู
อย่างเช่นสุนัขบูล เทอร์เรียนี่เป็นปัญหาทางด้านสายพันธุ์ ผิวสีขาวอมชมพูจัดเป็นสีผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ลองสังเกตดูว่าเวลาพาออกไปเดินเล่นกลางแดดนิดๆ หน่อยๆ บางครั้งก็มีริ้วแดงๆ ขึ้นแล้ว
3. สุนัขหน้าย่นผิวย่น
อย่างเช่นสุนัขพันธุ์ปั๊กหรือเชาเชา สาเหตุก็เป็นเพราะผิวหนังที่ย่นซ้อนกันเนี่ยแหละทำให้เกิดการอับชื้นหมักหมมได้ง่าย ไหนจะยังมีพวกปรสิตที่เข้าชอบไปแอบอีก
4. สุนัขสายพันธุ์ที่ไม่มีขน
อย่างเช่นสุนัขพันธุ์โซโลหรือไชนีส เครสเต็ด ด้วยความที่พวกมันไม่มีขนนั่นแหละจึงไม่มีเกราะป้องกันทางธรรมชาติทำให้ผิวถูกทำร้ายได้ง่ายนั่นเอง